วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

การตัดเล็บ ทำความสะอาดหู

ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู

การตัดเล็บสุนัข ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ปรกติสุนัขพันธุ์เล็กนิยมตัดนิ้วติ่งที่ไม่มีความจำเป็นทิ้งตั้งแต่เล็ก เพื่อป้องกันปัญหาเล็บหยั่ง แต่ก็มีกรณีที่ตัดไปแล้วแต่เล็บยังงอกยาวอยู่ หมาๆแมวๆเคยเจอสุนัขที่นำมาอาบน้ำ เล็บติ่งงอกยาวจนโค้งเข้ามาจิกฝังเนื้อบริเวณนั้นอักเสบบวมมาก ต้องใช้คีมดึงออก ปรากฏว่าฝังเข้าไปลึกมากเกือบครึ่ง ซม. น้องหมาคงเจ็บมานาน ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทควรสำรวจบริเวณนิ้วติ่งด้วย นอกจากนั้นการปล่อยให้เล็บงอกยาวเกินไปทำให้สุนัขเดินลำบาก เท้าอาจกางเสียรูปทรงไป น่าเสียดาย ก่อนอื่นขอแนะนำอุปกรณ์ตัดเล็บสุนัขก่อนค่ะ
















































จับอุ้งเท้าสุนัขอย่างเบามือ ควรตัดตามแนวกรรไกรที่เลือกใช้งาน เช่นหากเลือกใช้แบบบีบเข้าจากด้านข้างแล้ว นำไปตัดขวางเล็บ เล็บอาจแตกได้ กรณีตัดพลาดถูกเนื้อควรรีบอุดห้ามเลือดโดยเร็ว เนื่องจากแผลบริเวณเล็บต่างจากแผลที่ผิวหนัง เลือดหยุดไหลช้ากว่า ตัดเล็บเสร็จแล้ว หากขยันหรือพอมีเวลา จะตะไบลบคมเล็บแบบคน ช่วยป้องกันรอยแผลถลอกที่เกิดจากน้องหมาเกา และเป็นผลดีกับตัวเจ้าของเอง เวลาน้องหมาตะกายขา


ในช่องหูสุนัขมีขนปกคลุมก่อให้เกิดความหมักหมม เป็นที่อยู่อาศัยของไรหู และสิ่งสกปรกอื่นๆ อาจเป็นสาเหตุให้การอักเสบติดเชื้อ การถอนขนหูควรเริ่มทำตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข ถอนครั้งแรกๆสุนัขต้องเจ็บบ้างเหมือนผู้หญิงเราถอนขนคิ้วนั่นล่ะค่ะ เจ้าของต้องใจแข็งหน่อย เมื่อทำเป็นประจำความเจ็บจะค่อยๆลดลงจนชินไปในที่สุด












โรยแป้งลงในช่องหูและรอบๆ แล้วอาจใช้นิ้วดึงขนรอบช่องหูออกก่อน หรือจะใช้แหนบก็ได้แล้วแต่ความถนัด จากนั้นใช้แหนบช่วยดึงขนในช่องหูออกให้หมด ระวังแหนบหนีบหูน้องหมาด้วยค่ะ


หยดน้ำยาลงในช่องหู นวดคลึงหลังเบาหูเบาๆเพื่อกระตุ้นให้สิ่งสกปรกข้างในหลุดออกมากับน้ำยา แล้วใช้สำลีเช็ดทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยสำลีชุบน้ำยาเช็ดหูหลายๆครั้ง จนกว่าสำลีสะอาด


เสร็จแล้วค่ะ เท่านี้หูน้องหมาก็หอมชื่นใจ ไม่สกปรกอีกต่อไป ควรเช็ดเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อสุขอนามัยและน้องหมาไม่ต้องเจ็บตัวเพราะต้องถอนขนหูทีละเยอะๆ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆเป็นแบบหมาๆแมวๆบ้างไหม ชอบจับหมามาดมหูบ่อยๆ


 ที่มา

5 เคล็ด(ไม่)ลับในการดูแลสุขภาพขนและผิวหนังของลูกสุนัข

5 เคล็ด(ไม่)ลับในการดูแลสุขภาพขนและผิวหนังของลูกสุนัข

ผิวหนังและขนของลูกสุนัขนั้นบอบบางดุจดังผิวหนังของเด็กทารก ดังนั้นการดูแลสุขภาพขนและผิวหนังของลูกสุนัขจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษด้วย ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย 5 เคล็ด(ไม่)ลับในการดูแลสุขภาพขนและผิวหนังของเจ้าตูบตัวน้อยดังนี้

1 : ขนส่วยเริ่มด้วยโภชนาการที่ดี
เคล็ดลับแรกของการสร้างสุขภาพขนและผิวหนังของลูกสุนัขก็คือ เลือกอาหารคุณภาพดี มีโปรตีนสูงให้สุนัขของเรา เพราะสารอาหารที่ดีและครบถ้วนก็จะทำให้ขนสวย ดังคำกล่าวที่ว่า “You are what you eat” ฉันใด ฉันนั้น จึงขอแนะนำให้เลือกใช้อาหารลูกสุนัขระดับพรีเมี่ยมสำหรับลูกสุนัขของเรา


2 : เช็คสภาพขนและผิวหนังเป็นประจำ
เราควรตรวจเช็คสภาพขนและผิวหนังอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง หรือโดยเริ่มจากหัวจรดหาง เพื่อค้นหาเห็บ-หมัด-เหา ฯลฯ เพราะเจ้าพยาธิภายนอกเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้

3 : อาบน้ำพอเพียงด้วยแชมพูพอเหมาะ
ผิวหนังสุนัขแห้ง ขนหยาบกระด้างได้ แชมพูที่ใช้อาบน้ำให้ลูกสุนัขก็จำเป็นจะต้องใช้แชมพูสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูเด็กมาอาบสุนัข หรือใช้แชมพูของสุนัขโตมาใช้ เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการแพ้และอักเสบได้


4 : แปรงขนสม่ำเสมอ
การแปรงขนเป็นประจำก็ช่วยป้องกันขนพันกัน และทำให้น้ำมันของขนกระจายตัวช่วยให้ขนไม่แห้ง ซึ่งเราควรทำอาทิตย์ละครั้ง แต่ถ้าลูกหมาของเราขนยาว ก็ต้องแปรงขนอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๒ ครั้ง


5 : เสริมสุขภาพด้วยกรดไขมันและวิตามินที่จำเป็น
กรดไขมันโอเมก้า ๓ และโอเมก้า ๖ นั้นจำเป็นสำหรับสุขภาพขนมาก เพราะจะช่วยลดการผลัดขนและทำให้ขนเงางาม วิตามินและแร่ธาตุก็ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะช่วยให้ขนและผิวหนังมีสุขภาพดี




ที่มา

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

การกรูมมิ่งคือ

การกรูมมิ่งคือ


ตามพจนานุกรมแล้วการ Grooming คือ แต่งตัว,ตกแต่ง,ทำให้สะอาดหมดจด,ดูแล,เตรียมการ,เตรียมตัว ซึ่งถ้าแปลให้สละสลวยแล้วก็จะแปลว่า การดูแล ทำความสะอาดให้คนหรือสัตว์เลี้ยงก็ตาม


การกรูมมิ่งนี้ถ้าพูดถึงในวงการสัตว์เลี้ยงแล้ว ก็จะพูดถึงการอาบน้ำและตัดแต่งขนครับ

การกรูมมิ่งสุนัขหรือแมวไม่ใช่แค่การอาบน้ำแล้วใช้กรรไกร(ของหมาหรือคน)ตัดขนออกเท่านั้น แต่การกรูมมิ่งมีมากกว่านั้น

กล่าวคือเริ่มที่การอาบน้ำให้ก่อน (ซึ่งการเตรียมการก่อนการอาบน้ำนั้นจะเขียนเล่าในคราวต่อไป) ไม่ว่าจะเป็นการอาบในบ้าน นอกบ้าน ในอ่าง กาละมัง แปรงฟันให้ อาบเสร็จก็เช็ดตัว เป่าขนให้แห้ง ตัดเล็บออก หวีและแปรงขนให้เรียบร้อย ขั้นตอนสุดท้ายก็ผูกโว์

การแปรงขนนั้น มีวัตถุประสงค์คือ ขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในขนแต่ละชั้นออกรวมถึงขนที่ตายแล้ว การแปรงขนนั้นยังมีประโยชน์อีดก็คือ เป็นการรักษาผิวหนังของสัตว์เลื้ยงเพราะจะทำให้มีน้ำมันตามธรรมชาติออกมาจากผิวหนัง แต่ต้องแน่ใจนะว่าแปรงที่ใช้นั้นเหมาะกับสุนัขจริงๆ ไม่ใช้แปรงที่ใหณ่เกินไป แข็งเกินไป รายละเอียดของแปรงมีเยอะครับ ถ้าสุนัขขนสั้นก็แปรง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ถ้าขนยาวก็ควรแปรงวันละครั้งถึงจะดีต่อสุขภาพผิวและขน

การดูแลหูก็เป็นสิ่งจำเป็นมาก ในการอาบน้ำในแต่ละครั้งควรเอาสำลีอุดหูก่อนเพื่อป้องกันน้ำเข้าหูอันเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับหู การทำความสะอาดหูมี 2 ขั้นตอนที่สำคัญคือ 1 ถอนขนหู 2 เช็ดทำความสะอาดหู การเช็ดอาจจะหยอดน้ำยาเช็ดหูเข้าไปถ้ามีขี้หูเยอะ หยอดแล้วแล้วคลึงเบาๆ จะทำให้ขี้หูไหลออกมา แล้วใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดเป็นอันเสร็จ ก็จะเป็นการกำจัดกลิ่นจากหูและลดโอกาสของการเป็นโรคเกี่ยวกับหู


วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

การอาบน้ำตัดขนสุนัข

การอาบน้ำตัดขนสุนัข


ควรอาบน้ำให้สุนัข เมื่อสุนัขเริ่มสกปรก และมีกลิ่น บ้านเราเป็นเมืองร้อน การอาบน้ำอาจจะทำได้ถี่กว่าสุนัขที่อยู่ในเมืองหนาว อาจจะเดือนละครั้ง หรือ 2 เดือนครั้งก็ได้ ขึ้นกับสุนัขของคุณว่า มอมแมมง่ายแค่ไหน ควรอาบน้ำให้สุนัขตอนเช้าๆ ที่แดดไม่ร้อนจนเกินไป ขนจะได้แห้งง่าย หลีกเลี่ยงการอาบน้ำสุนัขตอนกลางคืน เพราะจะทำให้สุนัขเป็นหวัดได้ โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนยาว ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการอาบน้ำสุนัข

ถ้าสุนัขคุณเป็นสุนัขตัวเล็กๆ อาจให้อาบในกะละมัง (คล้ายกะละมังอาบน้ำเด็ก) แล้วใช้ขันใบเล็กๆ ตักน้ำราด แต่ถ้าเป็นสุนัขตัวใหญ่อาจผูกไว้กับหลัก (เช่น รั้วบ้าน) แล้วใช้สายยางรด ควรเริ่มราดน้ำจากด้านหลังสุนัข ด้านข้าง ขา ใต้ท้อง ก้นอย่าราดน้ำที่หัวของสุนัขโดยตรง เพราะสุนัขจะสะบัดน้ำทันที เมื่อหัวเปียกน้ำ ให้ค่อยๆ วักน้ำ ลูบที่หัว และหน้า และให้โอกาสมันสะบัดน้ำก่อน จะเทแชมพู
แชมพูที่ใช้ อาจใช้แชมพูสำหรับเด็ก หรือแชมพูสำหรับสุนัขก็ได้ การฟอกแชมพูควรเริ่มในลักษณะเดียวกับการราดน้ำ คือ เริ่มจากหลังก่อน ด้านข้าง แล้วย้ายมาที่ขา ใต้ท้อง ก้น หาง คอ และหน้า (ที่หน้าอาจล้างแชมพูออก โดยเริ่มจากที่หลังก่อน แล้วไล่ไปเรื่อยๆจนถึงหน้าฟอกเฉพาะบริเวณหัว บริเวณอื่นๆ ใช้น้ำลูบก็พอ)



เช็ดขนให้หมาดด้วยผ้าเช็ดตัว ถ้าสุนัขขนยาวอาจใช้ดรายเป่าผม เป่าให้ขนแห้ง สำหรับสุนัขที่ไม่คุ้นกับเสียงดรายเป่าผม ควรเริ่มเป่าจากด้านหน้าสุนัขก่อน เพื่อให้สุนัขทำความรู้จักกับดรายก่อน สุนัขจะได้ไม่ตกใจ เมื่อขนแห้งแล้ว ค่อยแปรงขนให้เรียบ (ขั้นตอนการแปรงขนต้องใจเย็นหน่อย ไม่งั้นสุนัขจะทำตาขวางใส่ ไม่ก็หนีสุดชีวิต ทำเอาเหนื่อยเชียวล่ะ) ถ้าเป็นสุนัขขนสั้น อาจมัดให้ตากแดดอ่อนๆ จนขนแห้ง ก็เป็นอันเสร็จ


การแปรงขน
การแปรงขนให้สุนัขเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ขนยาวหรือพันธุ์ขนสั้น เพื่อไม่ให้ขนเกาะติดกันเป็นสังกะตัง เพราะจะทำให้เป็นโรคผิวหนังอักเสบได้
สุนัขขนยาวควรทำการแปรงขน ให้อย่างน้อยวันละครั้ง ส่วนสุนัขขนสั้น ควรแปรงขนให้อย่างน้อย วันละครั้ง ส่วนสุนัขขนสั้นควรแปรงขนให้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง การแปรงขนให้แปรงตามแนวเส้นขนและแปรงลึกลงไปถึงข้างในโคนขน เพื่อให้ขนฟูสวย


อุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรงขน คือหวีหรือแปรงซึ่งมีหลายชนิดด้วยกัน จึงต้องเลือกชนิดที่เหมาะสมกับขนของสุนัข เช่น หวีซี่ถี่ใช้กับสุนัขขนสั้น หวีซี่หยาบขนแข็งใช้กับสุนัขขนยาว สุนัขที่มีขนติดพันกันยุ่งควรใช้หวีซี่ห่าง ๆ

การตัดเล็บ
อันนี้ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษหน่อย ถ้าคุณไม่เคยตัดเล็บให้สุนัขมาก่อน อาจให้ช่างเสริมสวย (สุนัข) ตัดให้ดูก่อน แล้วค่อยลองตัดเอง การตัดเล็บให้สุนัข ควรใช้ที่ตัดเล็บสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้ที่ตัดเล็บของมนุษย์เพราะโครงสร้าง เล็บของมนุษย์และสุนัขไม่เหมือนกัน การตัดควรตัดให้ห่างจากบริเวณเนื้อสีชมพู ใต้เล็บประมาณ 2มิลลิเมตร ถ้าไม่แน่ใจอาจตัดให้ห่างกว่านี้ก็ได้


การตัดแต่งขน
การตัดแต่งขนเป็นการเสริมสวยให้สุนัขตามแฟชั่น เพื่อความสะอาด และสวยงามอยู่เสมอสุนัขขนยาวทุกพันธุ์ ควรได้รับการตกแต่งขน เช่น พุดเดิล ค๊อกเกอร์ เทอร์เรีย เป็นต้น ผู้เลี้ยงสุนัขจำเป็นต้องตัดแต่งขนสุนัขให้ถูกต้องตามลักษณะนิยมด้วย และสุนัขบางพันธุ์ที่มีขนยาวมาก เมื่อนำมาเลี้ยงในประเทศไทยควรได้รับการซอยขนให้สั้น เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายจากความร้อนของอากาศ




การกรูมมิ่งน้องหมา แสนรักของคุณ

การกรูมมิ่งน้องหมา แสนรักของคุณ


เรื่องของการอาบน้ำและกรูมมิ่ง แต่ละคนมีการดูแลเกี่ยวกับความสวย ความงาม ความหล่อ น้องหมา แสนรักแตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับ ๑ คือน้อยมาก ถึง ระดับ ๕ มากมากเลย ที่ว่า ‘น้อยมาก’ นั้นส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของน้องหมาที่มีขนสั้นจึงต้องการดูแลเรื่องขนน้อยมาก การดูแลเรื่องความหล่อและความสะอาดจึงต้องการเพียงอาบน้ำด้วยแชมพู หรืออาจจะเป็นแชมพูผสมครีมนวด ประมาณอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง หวีขนบ้าง พาไปตัดขนบ้างนาน ๆ ครั้ง


ในขณะ ที่ ‘มากมาก’ นั้นคือเจ้าของน้องหมาที่มีขนยาวและส่วนใหญ่จะเป็นน้องหมาที่เลี้ยงภายในบ้าน จึงต้องเน้นเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ ซึ่งพวกที่จัดอันดับอยู่ในกลุ่มนี้จะอาบน้ำน้องหมาอาทิตย์ละครั้ง ด้วยแชมพูและลงครีมนวดด้วยเพื่อให้เส้นขนเงางามและไม่พันกัน พาน้องหมาไปทำ hot oil เดือนละครั้ง และพาน้องหมาไปตัดหรือเล็มขนให้เข้าทรงเดือนละครั้งเช่นกัน ส่วนเรื่องของการหวีขนนั้น เรียกว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องจับน้องหมาแสนรักขึ้นโต๊ะและปฏิบัติการหยิบหวีประมาณ ๕ ประเภทมาหวีขน ยังไม่หมด คุณผู้อ่านบางท่านอาจคิดว่าหมดแล้ว แต่ไม่หมด เพราะเมื่อหวีขนเสร็จแล้ว ก็ต้องบรรจงหยิบหนังยางหลากสี และโบว์น้อยใหญ่หลากหลายแบบ และออกแบบทรงผม จุกเดียวหรือสองจุกหรือบ้างอาจจะมีการถักเปียร้อยริบบิ้นเข้าไปอีก ถึงจะครบสูตร ผมเลยขอยกให้ เหล่านี้เป็นระดับ ๕ ไปเลย


หลังจากได้พูดคุยกันเรื่องการดูแลความสะอาดและเส้นขนของน้องหมาแสนรักกันแล้ว ประเภทของแชมพูและครีมนวดที่เหมาะกับสภาพผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาแสนรักของแต่ละบ้าน สำหรับบางคน แม้ว่าน้องหมาของเขาจะโตแล้วแต่ยังยืนยันจะใช้แชมพูสูตรของน้องหมาเด็ก หรือสูตร puppy ให้ลูก ๆ อยู่เพราะคิดว่าแชมพูสำหรับน้องหมาเด็กนั้นอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว นั่นเป็นเรื่องจริง ทว่าสำหรับน้องหมาที่ทำกิจกรรมเยอะ อาจจะมีวิ่งเล่นนอกสนามหญ้า หรือออกกำลังกาย แชมพูเหล่านี้อาจจะไม่สามารถชำระสิ่งสกปรกทั้งหมดบนเส้นขนของเขาได้หมด เพราะมันอ่อนโยนมาก ๆ อาจจะมีการผสมส่วนผสมของครีมนวดให้ขนไม่แห้งและเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ซึ่งนั่นจะส่งผลให้น้องหมาแสนรักแฉะเร็วก่อนกำหนดการอาบน้ำครั้งต่อไปได้ การเลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นขนหรือสีขนของเขาจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยในการที่จะทำให้น้องหมาแสนรักมีเส้นขนที่นุ่มสลวยเงางามและสะอาด


 มีหลายยี่ห้อที่จะแยกแชมพูตามประเภทของสีขน หรือสภาพผิวหนัง เช่น แชมพูสำหรับขนสีขาว ขนสีทอง ขนสีดำ หรือแชมพูสำหรับน้องหมาที่ผิวแพ้ง่าย หรือที่มีปัญหาโรคผิวหนัง และอีกสิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้เลยคือเรื่องของครีมนวด ส่วนใหญ่แล้วถ้าน้องหมาเป็นพันธุ์ที่มีขนสั้น ครีมนวดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น แต่สำหรับน้องหมาที่มีขนยาวแล้ว ครีมนวดจำเป็นมากเลย ก็คงเหมือนผู้หญิงที่ไว้ผมยาวที่ต้องใช้ครีมนวดทุกครั้งนั่นแหละซึ่งสรรพคุณของครีมนวดส่วนใหญ่ที่หลายคนนึกถึงก็คือ จะช่วยในการบำรุงให้เส้นขนเงางามและนุ่มลื่น แต่อีกหนึ่งสรรพคุณที่หลาย ๆ ท่านอาจลืมไปก็คือกลิ่น ครีมนวดบางยี่ห้อตอนดมกลิ่นจากขวดจะหอมมากแต่พอนวดตัวน้องหมาแสนรักของคุณแล้วล้างออก กลิ่นไม่ค่อยติดเท่าไหร่ เหมือน ๆ ครีมนวดผมของคนแหละครับ บางยี่ห้อพอนวดแล้วหอมจนใครเดินผ่านยังได้กลิ่น